LINE : @UFAZEED
×

วิธีเล่นรูเล็ตวงนอกวงใน แบบไหนกำไรเยอะสุด

                สิ่งหนึ่งที่ทำให้รูเล็ตกลายเป็นเกมยอดนิยมตลอดกาลก็คงหนีไม่พ้นเรื่องรูปแบบการวางเดิมพันที่มีให้เลือกเล่นอย่างหลากหลาย เปิดโอกาสให้นักเดิมพันได้กระจายความเสี่ยงตามต้องการ แน่นอนว่าวิธีการเล่นรูเล็ตแต่ละแบบก็จะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับรูเล็ตวงนอก-วงในกันว่าเป็นอย่างไร แบบไหนที่เล่นแล้วได้กำไรเยอะสุด

รูเล็ตวงนอก โอกาสดีของมือใหม่

การเล่นรูเล็ตวงนอก ถือว่าเหมาะกับมือใหม่มาก ๆ เพราะมีความเสี่ยงต่ำ โอกาสชนะที่สูง แต่ก็แลกมาด้วยอัตราการจ่ายที่ค่อนข้างต่ำ เพราะเป็นจุดที่คาสิโนได้เปรียบเราน้อยที่สุด คนที่เล่นรูเล็ตวงนอกไม่ได้มีเพียงแค่คนที่หัดเล่นรูเล็ตเท่านั้น แต่ยังมีนักเดิมพันที่ชอบเน้นชัวร์ ไม่ต้องการความเสี่ยงสูง ส่วนวิธีเล่นรูเล็ตวงนอกก็มีดังนี้

  1. แทงสี วิธีเล่นง่าย ๆ เพียงแค่ทายไปว่าลูกบอลจะไปหยุดที่ช่องสีอะไร ระหว่างสีดำกับสีแดง ส่วนสีเขียวของหมายเลข 0 จะไม่สามารถวางเดิมพันได้ หากรูเล็ตออก 0 เจ้ามือหรือคาสิโนก็จะชนะทันที แต่ถ้าชนะในการแทงสีจะได้รับอัตราจ่าย 1 : 1 ไม่รวมทุน
  2. แทงคู่-คี่ วิธีเล่นจะคล้ายกับแทงสี แค่เปลี่ยนมาเป็นทายว่าลูกบอลตกอยู่ในช่องเลขคู่หรือเลขคี่ หากตกในช่อง 0 เราก็จะเสียเดิมพันและคาสิโนก็จะเป็นผู้ชนะเช่นกัน ส่วนอัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 1 ไม่รวมทุน
  3. แทงสูง – ต่ำ จากตัวเลข 0 – 36 บนวงล้อ จะตัดเลข 0 ออกไป แล้วจัดกลุ่มตัวเลขไว้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มต่ำ (1-18) และกลุ่มสูง (19-36) เราเพียงแค่วางเดิมพันทายว่าลูกบอลจะหยุดที่เลขกลุ่มสูงหรือกลุ่มต่ำ หากออกตรงกับที่วางไว้ เช่น แทงกลุ่มสูง ลูกบอลหยุดที่หมายเลข 31 ถือว่าเราชนะ อัตราจ่าย 1 : 1 ไม่รวมทุน หากรูเล็ตออก 0 ก็จะเสียเดิมพันทันที
  4. แทงแถว รูปแบบการแทงนี้จะแบ่งตัวเลข 1-36 ออกเป็น 3 แถว คือ

    แถวที่ 1 หรือ 1st มีหมายเลข 1, 4, 7, 10, 13, 16, 19, 22, 25, 28, 31, 34

แถวที่ 2 หรือ 2nd มีหมายเลข 2, 5, 8, 11, 14, 17, 20, 23, 26, 29, 32, 35

แถวที่ 3 หรือ 3rd มีหมายเลข 3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36

วิธีการแทงก็แค่ทายไปว่าลูกบอลจะหยุดในแถวไหน หากหยุดที่หมายเลขที่อยู่ในแถวที่เราแทง เช่น แทงแถวที่ 3 ลูกบอลหยุดที่หมายเลข 18 ถือว่าชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 2 ไม่รวมทุน

  1. แทงโซน อันนี้ก็จะคล้ายการแทงแถว แต่จะเป็นการแบ่งตัวเลข 1-36 ออกเป็น 3 โซน แต่ละโซนจะมีเลขต่างจากแบ่งเป็นแถว ดังนี้

โซนที่ 1 หรือ 1st มีหมายเลข 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12

โซนที่ 2 หรือ 2nd มีหมายเลข 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24

โซนที่ 3 หรือ 3rd มีหมายเลข 25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36

ส่วนหมายเลข 0 ไม่อยู่ในโซนใด ๆ วิธีเล่นก็จะเหมือนกับการแทงแถว หากลูกบอลหยุดที่หมายเลขที่อยู่ในโซนที่เราแทง เช่น แทงโซน 2 ลูกบอลหยุดที่หมายเลข 13 แบบนี้ก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 2 เหมือนกัน

รูเล็ตวงใน ทุนต่ำ กำไรสูง

รู้จักรูเล็ตวงนอกกันไปแล้ว มาต่อรูเล็ตวงในกันบ้าง จุดเด่นของการเล่นรูเล็ตรูปแบบนี้คือใช้ทุนน้อย แต่ถ้าชนะก็จะได้รับรางวัลมากหลายเท่าตัว แม้ว่าจะเป็นการเล่นที่มีความเสี่ยงสูงแต่ก็เหมาะกับคนชอบเสี่ยง เน้นทำกำไรในระยะสั้น ถึงอย่างนั้นก็จำเป็นต้องมีวินัยในการเล่นด้วย เพราะมีโอกาสที่จะเสียเงินมากกว่ารูเล็ตวงนอก ส่วนรูปแบบการวางเดิมพันจะมีดังนี้

  1. แทงเต็งเลข เป็นการวางเดิมพันไปที่เลขใดเลขหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าใน 1 ตาเราจะแทงกี่เลขก็ได้ หากลูกบอลหยุดตรงกับหมายเลขที่เราแทงไว้ก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 36
  2. แทง 2 เลข หรือที่เรียกว่าแทงค่อมสอง เป็นการแทงพร้อมกัน 2 หมายเลข โดยหมายเลขดังกล่าวจะต้องอยู่ติดกัน หากลูกบอลหยุดที่หมายเลขใดหมายเลขหนึ่งก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 17
  3. แทง 3 เลข หรือแทงค่อมสาม วิธีเล่นจะคล้ายกับแทงโซน แต่จะเป็นการแทงตัวเลข 3 ตัวที่อยู่ติดกันบนโต๊ะแทน หากลูกบอลหยุดที่หมายเลขใดหมายเลขหนึ่งก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 11
  4. แทง 4 เลข หรือแทงค่อมสี่ เป็นการแทงพร้อมกัน 4 หมายเลขที่อยู่ติดกันบนโต๊ะในรูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส เช่น 1, 2, 4, 5 หรือ 7, 8, 10, 11 เป็นต้น หากลูกบอลหยุดที่เลขใดเลขหนึ่งก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 11 เช่นกัน
  5. แทง 6 เลข หรือแทงค่อมหก เป็นการแทงคล้ายกับค่อมสาม แต่ว่าจะเป็น 6 เลขที่อยู่ติดกัน หากลูกบอลหยุดที่เลขใดเลขหนึ่งก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 5

มาถึงตรงนี้คงเห็นกันแล้วว่าการเล่นรูเล็ตวงนอกและวงในนั้นมีความแตกต่างกันมาก ไม่ว่าจะเป็นกติกาหรืออัตราจ่าย อย่างไรก็ตามเราสามารถเลือกกระจายความเสี่ยงไปได้ตามต้องการเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร เช่น เราอาจจะวางเดิมพันขั้นต่ำสำหรับการแทงรูเล็ตวงใน ขณะเดียวกันอาจเพิ่มเดิมพันสักเล็กน้อยเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น ทั้งนี้ควรวางแผนให้ดีด้วยว่าเวลาชนะฝั่งใดฝั่งหนึ่งเมื่อหักเงินทุนแล้วเราจะต้องเหลือกำไร ไม่ใช่ชนะแต่ขาดทุน